ประวัติและอาชีพ ของ ชาติชายน้อย ชาวไร่อ้อย

ชีวิตวัยเด็ก

ชาติชายน้อย มีชื่อจริงว่า ชูชาติ หลวงพล เกิดเมื่อปี 2508 ที่จังหวัดนครราชสีมา เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนักมวย พ่อของเขาเป็นเจ้าของค่ายมวยไทยเล็ก ๆ ในท้องถิ่น และตะคร้อเล็ก เดชรัตน์ น้องชายของเขาก็เป็นนักมวยไทยด้วยเช่นกัน

ต่อมาเขาย้ายไปซ้อมที่ค่ายเดชรัตน์ของสุรัตน์ เสียงหล่อ อดีตผู้ฝึกสอนของพเยาว์ พูลธรัตน์ เจ้าของเหรียญทองแดงในโอลิมปิกฤดูร้อน 1976 และแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวทของสภามวยโลก

อาชีพ

ชาติชายน้อยชกกับนักมวยชื่อดังร่วมสมัยมากมาย เช่น ขุนเข่าไร้น้ำใจ หลังสวน พันธุ์ยุทธภูมิ, หมัดพญายม หลักหิน วสันตสิทธิ์, แซมซั่นอีสาน แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์, 2 พี่น้อง พิมพ์อรัญ และพิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ, พยัคฆ์หน้าขรึม วีระพล สหพรหม, ชายน้อย เมืองสุรินทร์, โตโต้ ป.พงษ์สว่าง, เด็ดดวง ป.พงษ์สว่าง พรานศอก 100 เข็ม ยอดขุนพล ศิษย์ไตรภูมิ และพนมรุ้ง ศิษย์สวป. เป็นต้น ในช่วงจุดสูงสุดในอาชีพของเขา ชาติชายน้อยได้รับค่าตัวสูงถึง 150,000 บาท[1]

3 เทคนิคที่เขาชื่นชอบ ได้แก่ การเตะอย่างรุนแรงที่ข้อเท้าของคู่ต่อสู้ การต่อยหมัดตรง และการฟันศอกในระยะประชิด[2]

เขาได้มีโอกาสลองชกมวยอาชีพ ในปี 2538 โดยเผชิญหน้ากับหนึ่งอุบล ศิษย์เลิศชัย ซึ่งเป็นนักมวยไทยด้วยกันแต่แพ้น็อก

มีนักมวยไทย 3 คนที่เขาชื่นชม ได้แก่ หนองคาย ส.ประภัสสร, ใกล้รุ่ง ลูกเจ้าแม่ไทรทอง, แสนชัย ส.คิงสตาร์[1]

แขวนนวม

หลังจากแขวนนวมแล้วเขาก็ไปเป็นเทรนเนอร์ให้กับค่ายเดชรัตน์ซึ่งเป็นค่ายเก่าของเขา และยังเป็นเจ้าของค่ายมวยไทยที่อำเภอพระพุทธบาทอีกด้วย[1]

ลูกชายทั้ง 3 คนของเขายังเป็นนักมวยอีกด้วย ลูกชายคนโตและคนที่ 2 คือ เพชรชาติชาย ชาวไร่อ้อย และ ยอดชาติชาย ต่างก็เคยเป็นนักมวยไทยมาก่อน ขณะที่ลูกชายคนที่ 3 ชายน้อย วรวุฒิ เคยเป็นนักมวยไทยก่อนผันตัวมาเป็นนักมวยอาชีพและกลายเป็นนักมวยไร้พ่ายซึ่งปัจจุบันเป็นแชมป์รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวทของ WBC-ASIA[3]